
สีกาสาวเล่านาที อยู่ต่อหน้า หลวงปู่แสง กัน จอมพลัง เผยเกจิดังมีเงินในบัญชี 57 ล้าน
จากกรณีสาวรายหนึ่งเข้าร้องเรียนกับ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี อ้างถูก หลวงปู่แสง จนฺทโชโต (ญาณวโร) วัดป่าดงสว่างธรรม จ.ยโสธร พระเกจิชื่อดัง จับหน้าอก จับอวัยวะเพศ อ้างทำเพื่อรักษามะเร็ง ทั้งยังมีการอวดอุตริว่ามีเลือด ปัสสาวะ สามารถกลายเป็นพระธาตุได้
ข่าวดังกล่าวทำเหล่าลูกศิษย์ใจสลายว่าจริงหรือไม่ ก่อนเกิดการถกเถียงสองฝ่าย ซัดกลับทันทีว่าถูกจัดฉากหรือเปล่า เพราะจริง ๆ แล้วหลวงปู่แสงอายุเกือบร้อยปี อาพาธเป็นอัลไซเมอร์ รายการโหนกระแส วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 สัมภาษณ์ น้องไก่ และแม่ ผู้เสียหายอีกราย ที่ไม่ใช่คนในคลิปข่าว มาพร้อม กัน จอมพลัง
คุณไก่เป็นลูกสาว เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น ?
ไก่ : เรื่องเริ่มต้นจากว่า คุณพ่อติดตามกลุ่มในเฟซบุ๊กของวัด ทีนี้คุณพ่อศรัทธามาก เคยไปวัดนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดเรื่องค่ะ แต่ก่อนหน้านี้ที่จะไป คุณพ่อร่วมทำบุญ บ้านเราเป็นบ้านที่นับถือศาสนาพุทธมาก ๆ และชอบไปไหว้พระเกจิ ชอบทำบุญมาก เราเคยไปวัดนี้ช่วงนึงเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว แต่รอบนั้นไม่เกิดอะไรขึ้นเพราะเราไปช่วงมีคนไปทำบุญเยอะ
ช่วงเกิดเหตุวันนั้นเราไปถึงวัดตอนเย็นแล้ว แล้วเขาบอกว่าเย็นนั้นเหมือนจะมีแสดงธรรม แต่พอไปถึงก่อนเวลาแสดงธรรม เราก็ขึ้นไปไหว้หลวงปู่ก่อนมั้ย เราไปกราบหลวงปู่ก่อนเถอะ ก็เลยเข้าไปค่ะ พอไปถึงตามที่เห็นในภาพ จะมีสเต็ปขึ้นไปที่หลวงปู่นั่งอยู่ เขาเรียกคุณพ่อให้ขึ้นไปก่อน หนูกับแม่นั่งอยู่ข้างล่าง เพราะเรารู้ดีว่าเป็นสีกาไม่ควรเข้าใกล้พระ ทีนี้หลวงปู่ก็เรียกขึ้นไปข้างบน
ที่ไปเป็นกุฎิของท่าน ?
กัน : เป็นที่นั่งรับแขกของท่าน รับญาติโยม
ไก่ : ตรงนั้นยกสเต็ปขึ้นไป หนูกับแม่นั่งอยู่บนพื้นกระเบื้องด้านล่าง พอหลวงปู่เรียกขึ้นไป พ่อก็ถามว่าขึ้นไปได้เหรอครับ ท่านก็เหมือนเอาไม้เคาะ ๆ คุณพ่อแค่นี้ แล้วเรียกหนูกับแม่ขึ้นไป ก็ถามว่าขึ้นได้เหรอคะ พระท่านก็บอกว่าขึ้นได้เลยโยม หลวงปู่ท่านเมตตา ขึ้นมาเลย หนูกับแม่ก็ขึ้นไป นั่งเรียงหน้ากระดาน 3 คน หนู คุณแม่ และคุณพ่อ
หลวงปู่เป็นคนเรียก ?
ไก่ : ท่านยิ้ม ๆ แล้วก็เรียกขึ้นไป พระเลขาก็บอกว่าขึ้นมาเลยโยม หลวงปู่ท่านเมตตา ไม่เป็นไร ตอนนั้นมีอยู่ 2 รูป มีนั่งข้างหลวงปู่ 1 รูป และยืนอยู่ 1 รูป ทีนี้พอเสร็จปุ๊บก็ก้มลงไหว้ทั้ง 3 คน หลวงปู่เอามือมารองมือแม่แล้วก็บีบ ๆ
เป็นแบบนั้นมั้ยคุณแม่ ?
แม่น้องไก่ : ใช่ค่ะ การเล่าครั้งนี้ เล่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ที่บ้านเราเป็นครอบครัวชอบทำบุญ เราไปทำบุญกันอย่างสม่ำเสมอ เราศรัทธาในตัวสามี แฟนเราชอบหาเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง เราก็ไปกราบตลอดเวลา วันที่เราเดินทางไปวันนั้น เราไปด้วยใจศรัทธาจริง ๆ ตอนไปเรากราบท่านนอบน้อมที่สุด ตัวเองเป็นคนนั่งกราบอยู่ข้างล่าง แต่หลวงปู่เรียกขึ้นไป เราก็งงว่าขึ้นไปได้เหรอ แฟนก็ถามว่าขึ้นไปได้เหรอ พระก็บอกว่าขึ้นไปได้ พระที่นั่งข้างหลวงปู่ค่ะ
แล้วหลวงปู่ก็บอกว่าขึ้นได้ด้วย ก็เลยสงสัยเป็นประเพณีของที่นี่ อีกอย่างท่านเป็นระดับอริยสงฆ์ ท่านคงมีเมตตา คงเป็นบุญของเราที่ได้มากราบขนาดนี้ ในใจคิดอย่างนั้น ว่าเราได้รับบุญ รับกุศลจากความเมตตาของท่าน เราก็กราบ ท่านก็จับมือเราไปบีบไปกำ แล้วดึงเข้ามาใกล้ ๆ จากนั้นเราก็เลยถอยลงไป เสร็จแล้วท่านก็เรียกลูกสาวเข้าไป
ไก่ : พอถึงตอนหนูไหว้ เขาก็จับเหมือนกัน บีบ ๆ มือก่อน แล้วดึงเข้าไปกอดเลย แล้วก็หอม ดึงแมสก์หนูออกไปเลย พอท่านดึงเข้าไปหา พ่อแม่อยู่ด้านหลังก็จะไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านโอบ หนูรู้สึกได้เลยว่าท่านล้วงเข้าไปแล้วจับที่หน้าอกเรา แล้วก็มองพระที่ยืนอยู่ ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร หนูคิดว่าเขาต้องเห็น เพราะเขาอยู่มุมสูง แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร
แม่น้องไก่ : พอลูกสาวถอยหลังลงมา ยอมรับว่าเราไม่เห็นเหตุการณ์กับลูกสาวเลย เพราะเราเห็นแต่ด้านหลัง เราไม่เห็นเลยว่าพระทำอะไรส่วนด้านหน้าของลูกสาว พระเรียกเราเข้าไป หลวงปู่เรียกเราเข้าไป พระที่อยู่ข้าง ๆ ก็บอกว่าเข้าไปเลยโยม ไม่มีอะไร ท่านเมตตา เราก็โน้มศีรษะไปเฉย ๆ คือกอดก็ได้ แต่กอดแค่ศีรษะ แต่ท่านจะดันเราเข้าไปให้ชนตัวท่าน เราก็ทำไมเป็นแบบนี้ พระที่นั่งข้าง ๆ ก็จะบอกว่าไม่เป็นไรโยม เข้าไปชิดเลย เราก็คิดว่าหลวงปู่คงเมตตา และประเพณีที่นี่คงเป็นแบบนี้ ออกจากวัดเราก็คิดได้ว่าทำไมโง่ขนาดนั้น
ขอถามทางฝั่งศิษย์หลวงปู่บ้าง เราเองเป็นสีกา รู้อยู่แล้วไม่ควรเข้าใกล้พระ ทำไมวันนั้นถึงไม่เอาตัวออกมา ขึ้นไปข้างบนทำไม ?
แม่น้องไก่ : ถูกเรียกให้ไป ขณะนั้นเรามีความศรัทธาในตัวท่านมาก ความศรัทธานี่แหละค่ะทำให้เราหลงผิด เชื่อทำตามคำท่านบอกว่าให้เราขึ้นไป หลังท่านดึงตัวไป ท่านก็เอามือมาหน้าอก และบนล่างอย่างรวดเร็ว เราก็ปัดป้องและดันตัวออกห่างจากท่านทันทีค่ะ ตอนนั้นเราตกใจมาก ว่าทำไมเกิดแบบนี้
จริง ๆ เชิญลูกศิษย์มาด้วย จ่ายค่าตั๋วเรียบร้อย บินมาเรียบร้อย นั่งอยู่หน้าสตูฯ มีผู้หลักผู้ใหญ่บอกไม่ให้ขึ้น บอกว่าศิษย์คนนี้รู้ไม่จริงไม่ให้ขึ้น ก็ไม่เป็นไร ตอนแรกจะให้คุยสองมุม แต่เดี๋ยวถามแทนอีกฝั่งนึงแล้วกัน สิ่งสำคัญคืออยากทราบว่าทำไมถึงต้องตั้งกล้องถ่าย ณ เวลานั้น บางคนบอกว่าเราไปจัดฉากหรือเปล่า ?
ไก่ : ต้องบอกว่าคลิปที่ออกมา ไม่ใช่คลิปเหตุการณ์ของหนู
แม่น้องไก่ : ตอนนั้นลูกสาวบอกแล้วห้ามถ่ายภาพ ห้ามใช้กล้อง
ไก่ : ข้างบนที่กุฏิหลวงปู่จะมีป้ายติดอยู่แล้วว่าห้ามถ่ายภาพก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งปกติคุณพ่อจะชอบถ่ายรูปมาก เป็นป้ายบอกเฉพาะเลยค่ะ
ห้ามถ่ายภาพก่อนได้รับอนุญาต ห้ามสุภาพสตรีเข้าใกล้องค์หลวงปู่ เขาเตือนไว้แล้วนะ ต้องมีบุรุษผู้รู้ความในขณะเข้ากราบ เนื่องจากองค์หลวงปู่ชราภาพ และมีโรคประจำตัว ขอให้เว้นระยะห่างตามสุขอนามัย หากต้องเข้ารับของที่ระลึกให้รับและถอยออกมาดังเดิม ให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเคารพครูบาอาจารย์ ขอให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นี่คือที่เขาบอกไว้ แต่ภาพในคลิปไม่ใช่คุณ 2 คน ?
ไก่ : ไม่ใช่ค่ะ
กัน ยังไงเรื่องนี้ ?
กัน : คือเมื่อวานเจตนาที่ไป มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเยอะ เรื่องหลวงปู่จริง ๆ ไปไม่ได้อยากไปหาเรื่องแอ็กชั่น แค่อยากบอกว่ามีเหตุการณ์ร้องเรียนแบบนี้จริง ๆ แค่อยากบอกหลวงปู่กับลูกศิษย์ว่าหยุด อย่าทำเพิ่ม ไม่ต้องการให้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้น แค่อยากไปบอกไปเตือนดี ๆ ถ้ารับปากว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกก็จบ แฮปปี้ แต่เมื่อวานมีการอวดว่าท่านเป็นพระ บรรลุแล้ว เรามีการบอกก่อนแล้วว่ารับได้มั้ย ถ้ารับได้ก็ขึ้นไปเจอ ถ้ารับไม่ได้ก็กลับบ้านไป
แต่จริง ๆ ผมเข้าใจหลวงปู่นะ ท่านก็น่าสงสาร ไม่ได้ตั้งใจไปทุบหรือรังแกท่านนะ เมื่อวานที่สัมผัสได้คือพระลูกศิษย์ทั้งหลายนั่นแหละ ตัวดีทั้งนั้น ถ้าเป็นพระลูกศิษย์ที่รักหลวงปู่จริง บอกว่าหลวงปู่ป่วย เอาหลวงปู่มาทำแบบนี้เพื่ออะไร ท่านหวังอะไรในตัวหลวงปู่หรือเปล่า หลวงปู่ทำแบบนี้ท่านมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าบอกว่าท่านมีเจตนาดี รักหลวงปู่จริง ท่านจะทำให้คนมองหลวงปู่ในแง่ลบแบบนี้เหรอ
อยู่ในสายกับ วิทย์ มหาชน กรรมการสมาคมชาวยโสธร เป็นคนที่ศรัทธาหลวงปู่ ตอนนี้เท่าที่มีโอกาสคุยกับหลาย ๆ ท่าน มีการบอกว่าหลวงปู่ท่านป่วย เป็นอัลไซเมอร์ ท่านทำอะไรซ้ำ ๆ เหมือนเดิม สมมติผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปท่านก็ทำแบบนี้ มีการกอด ตบหลัง โยนของ แต่ประเด็นที่ต้องจับตามองคือพระรอบข้าง คุณวิทย์ศรัทธาหลวงปู่ มองเรื่องนี้ยังไง ?
วิทย์ : ผมมองว่าพระผู้เฒ่าอายุ 100 กว่า ขอถามผู้หญิงผู้เสียหายว่าเดินทางไปกราบหลวงปู่แล้วมีปัญหานานหรือยัง
ไก่ : ไม่นาน ประมาณเดือนเศษ
วิทย์ : หลวงปู่แก่ขนาดนี้ อายุขนาดนี้ แล้วพอทราบมั้ยว่าหลวงปู่ท่านมีอาการ
ไก่ : ไม่ทราบค่ะ
วิทย์ : เจตนาที่ไปหาหลวงปู่เพื่อปรารถนาขอเมตตาหลวงปู่ เอาจากคลิปคุณฟ้า ป่วยเป็นมะเร็งใช่มั้ย
ไก่ : ไม่ใช่ค่ะ ผู้เสียหายคนละคน เราไปด้วยความศรัทธา พ่อก็อยู่ด้วย เราไปด้วยศรัทธาจริง ๆ บ้านเราชอบทำบุญอยู่
วิทย์ : แล้วพอทราบเจตนาหลวงปู่มั้ยว่าท่านมีเจตนาอะไร ในการกอด ได้สังเกตมั้ยว่าพฤติกรรมหลวงปู่ ถ้าเป็นปู่ย่าตายายเราอายุ 100 ปี ผมถามก่อนว่าเราจะเห็นเจตนาที่จะมองมั้ยว่าท่านทำแล้วผิด ถามตรง ๆ จากหัวใจ
กัน : เอาตรง ๆ ท่านถือว่าเป็นพระ การแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงในทางปฏิบัติทำไม่ได้อยู่แล้ว ด้วยจริงๆ พระแตะต้องผู้หญิง หรือมีการกอดหอม ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่โอเค แต่ถ้าถามว่าตามที่ลูกศิษย์อ้างว่าท่านป่วยอยู่ ผมถามว่าถ้าท่านป่วย ทำไมถึงเอาท่านมารับแขก เอาท่านมาเจอคนแบบนี้ ขอถามกลับพี่บ้าง ในมุมลูกศิษย์ พี่เห็นภาพว่าท่านป่วยแบบนี้ คิดว่าท่านน่าจะมารับกิจแบบนี้มั้ย
วิทย์ : มันมีสองส่วน หนึ่งการให้เมตตา ให้ลูกศิษย์ได้เห็นได้กราบได้ไหว้ เหมือนรับแขก ครูบาอาจารย์สายผู้เฒ่า เพียงแต่ว่าที่ผมถามว่าที่ไปวันนั้น ทุกคนทราบมั้ยว่า หลวงปู่อาการขนาดนั้น แทบไม่ได้สติ ทุกคนตกใจหมด ตอนนักข่าวกรูกันเข้าไป แต่หลวงปู่นั่งเฉย โยนพระเฉย กิริยาหลวงปู่แทบไม่รับรู้ หลวงปู่ยังโยนพระ ๆ กิริยาคือใครเข้าไปใกล้ก็กอด ตรงนี้ผมมองสองส่วน ส่วนนึงผมชื่นชมที่พวกคุณกับหมอปลาเข้าไปไล่มารศาสนาจริง ๆ แต่เจตนาการทำบางอย่างต้องแยกให้ออก
ของสกปรกคืออะไร ของสะอาดคืออะไร ส่วนไหนพอบุก ส่วนไหนต้องเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ให้ชัดเจน เพื่อรู้เหตุรู้ผล และรู้ความเป็นมาก่อน ในฐานะผมคนยโส ผมรู้ว่าหลวงปู่บวชมา 80 พรรษา ผมไม่สงสัยว่าทำไมคุณพ่อของน้องเขาถึงศรัทธา ศรัทธามีทั้งแบบศรัทธาแบบมืดบอด และศรัทธาแบบมีปัญหา การพาลูกขึ้นไปกราบไม่ผิด แต่หลวงปู่ ณ เวลานั้นท่านจะรู้อะไรหรือเปล่า ต้องถามคนมีสติสัมปชัญญะแบบพวกเรานี่แหละว่าคุณเห็นสภาพหลวงปู่ตอนนั้น และต้องพูดตรง ๆ ว่าพระเลขาค่อนข้างเป็นพระที่อับปัญญา ไม่รู้แม้แต่วิธีปฏิบัติรักษาครูบาอาจารย์อย่างไร ไม่รู้แม้แต่อะไรควรทำหรือไม่ควรทำอย่างไร
ขออีกที เป็นพระอะไร ?
วิทย์ : พระอับปัญญา ปัญญาไม่เกิด หมายถึงพระรายล้อมไม่มีปัญญา ทำไมยอมให้พุทธศาสนิกชนเข้าหาหลวงปู่ ทั้งที่หลวงปู่กำลังป่วยแบบนี้ ?
วิทย์ : ใช่ครับ เข้าไปหาได้แค่กราบ ขนาดผมสนิท แค่กราบก็ออก การนั่งสนทนาท่านก็นั่งไม่ได้แล้ว
ผู้เสียหายเขาโดนกระทำจริง ๆ เขาก็บอกว่าเขาเป็นเหยื่อ ทีนี้มุมกลับก็มีพูดถึงเรื่องพระที่เป็นลูกศิษย์ ทำไมปล่อยให้หลวงปู่ทำแบบนี้ คุณวิทย์บอกหลวงปู่แก่แล้ว และอาพาธด้วย ทั้งหมดเกิดจากพระแวดล้อมที่อับปัญญา คุณกันอยากถามอะไร ?
กัน : เมื่อกี้พี่วิทย์พูดเหมือนยอมรับและรับรู้ว่าสิ่งที่หลวงปู่ทำแบบนี้ ทำมานานแล้ว หลวงปู่ทำมานานแล้วเหรอครับ
วิทย์ : อันนี้เราไม่ทราบนะว่าหลวงปู่ทำมานานแล้วหรือเปล่า แต่เราเห็นหลวงปู่โยนพระเป็นสิบปีแล้ว ตอนนี้ต้องถามก่อนว่าที่คุณกันพานักข่าวไป บอกว่าไม่เจตนา แต่ภาพที่ออกมา ผมว่าเหยื่อจริง ๆ คือหลวงปู่นะ ไม่ใช่ผู้หญิงหรือใครนะ
ตัวผู้หญิงก็เป็นเหยื่อด้วยเหมือนกัน ?
กัน : ผู้หญิงเขาถูกละเมิดมานะครับ จะบอกว่าหลวงปู่เป็นผู้เสียหายคนเดียวไม่ได้ พระเลขาก็เป็นคนพูดทั้งหมดว่าหลวงปู่มีพฤติกรรมอย่างนั้นจริง ทำมานานแล้ว เมื่อวานผมยังถามเลยว่าถ้าหลวงปู่เป็นแบบนี้แล้วทำไมเอาหลวงปู่มาทำแบบนี้ ผมไม่ได้ไปทุบหรือรังแกหลวงปู่นะ ผมไปเพื่อไม่ให้มีผู้เสียหายเพิ่ม ไม่ให้คนมองหลวงปู่แย่ด้วย พระที่อยู่รอบตัวเขาหรือลูกศิษย์ ก็ควรบอกเขาว่าอย่าทำแบบนี้
วิทย์ : สิ่งที่คุณฟ้า หมอปลาพูดในคลิป จะบอกแทนชาวพุทธที่ฟังภาษาไทยรู้เรื่องทั้งหมดว่าอะไรเป็นอะไร อย่างผมไม่ได้เข้าข้าง แต่เราจะมาทำความจริงให้กระจ่าง ว่าแต่ละคนที่ไปกราบหลวงปู่ไปเพื่อเจตนาอะไร
พี่วิทย์จะบอกว่าหลวงปู่อาพาธ มีอาการโยนพระให้ หรืออาจโดนสีกา เป็นมุมที่ท่านทำอย่างนี้ทั้งชายและหญิง ถูกมั้ย ?
วิทย์ : ไม่ใช่ครับ อย่างที่บอกว่าดูที่เจตนาคนที่ไปด้วยว่าขึ้นไปกราบหลวงปู่ ไม่รู้เจตนาว่าไปเพื่ออะไร ให้หลวงปู่ทำอะไรบ้าง สองต้องมองเจตนาหลวงปู่ว่าท่านทำเพื่อเมตตาหรืออะไร หลวงปู่มีความกำหนัดมั้ย มีความอยากทางเพศมั้ย ตรงนี้สำคัญที่สุดครับ เจตนาเป็นเครื่องชี้วัดดีที่สุด
อาร์ม อยู่วัดหลวงปู่ ตอนนี้อยู่กับใคร ?
อาร์ม : อยู่กับลูกศิษย์หลวงปู่แสง เป็นลูกศิษย์ อยู่มาตั้งแต่ปี 35 วิจิตร ทองแก้ว ลูกศิษย์หลวงปู่แสง ข่าวที่เกิดขึ้นลุงมองยังไง ?
วิจิตร : ผมไม่ทราบครับ แต่ทราบว่าหลวงปู่ป่วยมาตั้งแต่ปี 40 ป่วยลุกไม่ได้ จำผมก็ไม่ได้ ถ้าบอกชื่อถึงบอกว่าวิจิตรเข้ามา
ลุงรู้ใช่มั้ย ว่าหลวงปู่ไปโดนตัวสีกา ?
วิจิตร : ก็ได้ยินข่าวนี่แหละครับ ถ้าอยู่จะไม่ให้ขึ้นเด็ดขาด ตรงนั้นเป็นอาสน์สงฆ์ เป็นที่หลวงปู่พักผ่อน
ใครให้ขึ้นไป ?
วิจิตร : ผมไม่รู้เลย ผู้หญิงขึ้นไม่ได้
พระที่อยู่แวดล้อมบอกว่าให้ขึ้นมาได้ ?
วิจิตร : ผมไม่ทราบตรงนี้ ได้ยินแต่ข่าวเมื่อวานนี้
กัน : สอบถามคุณลุงหน่อย คุณลุงบอกว่าหลวงปู่เป็นอัลไซเมอร์
วิจิตร : ไม่ได้บอกเป็นอัลไซเมอร์ แค่บอกว่าหลวงปู่ลืม
เวลาคนบริจาคเงินให้หลวงปู่ ใครบริหารเงิน ?
วิจิตร : ท่านเป็นคนเก็บเอาไว้ในกระเป๋า ใครจะเอาไว้ผมไม่ทราบ ท่านเก็บเอาไว้นั่นแหละ ไม่รู้ว่าให้ใคร ลูกศิษย์เยอะ
เงินอยู่ไหนไม่รู้ ?
วิจิตร : ได้ยินว่าอยู่ธนาคาร บัญชีหลวงปู่แสง
คุณไปกันกี่คน ?
ไก่ : 3 ค่ะ มีหนู คุณพ่อ คุณแม่
พ่อขึ้นไปกราบมั้ย ?
ไก่ : ขึ้นค่ะ
หลวงปู่จับหน้าอกคุณพ่อมั้ย ?
ไก่ : ไม่ค่ะ
แม่น้องไก่ : ไม่มีค่ะ แถมให้คุณพ่อเขยิบถอยหลังไปได้ แต่เรียกเรา 2 คนให้เข้าไป
การปฏิบัติต่างกัน ?
แม่น้องไก่ : ใช่ค่ะ นี่คือความจริงที่พูดค่ะ
กัน : เรื่องที่แย่ลงเพราะพระเลขาใกล้ตัวทั้งนั้น เมื่อวานคนบอกกินฉี่ก็เป็นพระลูกศิษย์ทั้งนั้น คนบอกมีแพมเพิสพระธาตุ ที่มาอวดอุตริ พูดตรง ๆ ทำให้หลวงปู่ดูแย่ลง ไม่ห้ามปราบ ไม่เตือน ก็พระเลขาลูกศิษย์ทั้งนั้น
ไม่เหนื่อยเหรอ โดนด่ามั้ย ?
กัน : เหนื่อยครับ ในเฟซบุ๊กก็โดนด่า แต่เราไปด้วยเจตนาดี เราไปด้วยความถูกต้อง จริง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งหลวงปู่ก็ได้ประโยชน์ ถ้าลูกศิษย์เบรกไม่ให้มีผู้เสียหายมากขึ้น ภาพท่านก็ดีขึ้น ตัวผู้เสียหายก็ไม่เพิ่มขึ้น น้องก็ได้ความเป็นธรรมไป
ทิดไพรวัลย์ วรรณบุตร อยู่ในสาย เรื่องนี้ไปกันใหญ่โตแล้ว มองเรื่องนี้ยังไง ?
ทิดไพรวัลย์ : ประเด็นนี้อยากได้คำตอบที่เคลียร์และชัดเจน ว่าหลวงปู่แสงท่านเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์จริงหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ยากเลย ไปตรวจได้เลย มีภาวะสมองฝ่อจริงมั้ย อัลไซเมอร์จริงมั้ย ถ้าจริงต้องให้ความเป็นธรรมท่านในเรื่องนี้ ส่วนประเด็นพระลูกศิษย์ ทำไมปล่อยให้หลวงปู่มีพฤติกรรม หรือทำอะไรซ้ำ ๆ แม้ว่าท่านจะไม่รู้ตัวก็ตาม ทั้งเรื่องการจับหน้าอกหรืออวัยวะของสงวนผู้หญิง ทำไมยังปล่อยให้ทำ ทำไมยังปล่อยให้เกิด ง่ายมาก เอาแค่ 2 ประเด็นนี้พอ
ถ้าท่านอาพาธจริง มีคุณหมอออกมายืนยันว่าป่วยจริง มีอาการแบบนี้จริง ในมุมพระถือว่าผิดวินัยมั้ย ?
ทิดไพรวัลย์ : ถ้าเป็นพระสติฟั่นเฟือน พระวินัยมีข้อยกเว้นชัดเจนเลยครับ พระวินัยไม่เอาโทษกับพระสติฟั่นเฟือน เป็นเคสยกเว้น อยากให้ใช้สติและเหตุผลนิดนึง ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับพระแก่หรือไม่แก่ ถ้าแก่แล้วมีสติสมบูรณ์ ทำแบบนี้ก็ผิดครับ พระวินัยตัดสินแค่ว่าจงใจหรือไม่จงใจ เจตนาหรือไม่เจตนาเท่านั้นเองครับ
เขาตั้งข้อสังเกต ทำไมจับแต่ผู้หญิง ไม่จับผู้ชาย ?
ทิดไพรวัลย์ : คนเรามันไม่เหมือนกัน คนเป็นอัลไซเมอร์ ความจำพฤติกรรมในการทำอะไรไม่เหมือนกัน บางคนเหมือนเด็ก บางคนทำไมเล่นขี้ได้ เพราะเขาไม่รู้ไงครับ เขามีภาวะผู้ป่วย ประเด็นที่อยากถามคือทำไมปล่อยให้ผู้หญิงเข้าใกล้พระผู้ใหญ่แบบนั้นได้ไง คณเป็นคนพุทธได้ไง ผมด่าทั้งพระอุปัฎฐาก ด่าทั้งผู้หญิง คุณเป็นคนพุทธได้ยังไง กรณีที่คุณรู้ว่าการเข้าใกล้พระแบบนี้ทำไม่ได้ เป็นความรู้เบสิกพื้นฐานนะครับ ทำไมชอบเข้าใกล้พระ ให้พระเจิมหัวเป่าหัวกัน การทำแบบนี้ทำไม่ได้เลย คุณเป็นคนพุทธได้ยังไง
แม่น้องไก่ : ขออนุญาตนะคะ เราไปตรงนั้นด้วยความศรัทธา ศรัทธาพาไป เราศึกษาพระธรรมไม่ลึกซึ้งเหมือนท่าน แล้วมีพระข้าง ๆ บอกว่าเข้าไปได้ ในใจเราก็ค้านเสมอว่าเข้าไปได้ด้วยเหรอ แต่พระที่นั่งข้าง ๆ บอกว่าเข้าไปได้โยม เราก็จะทำยังไงล่ะ เราคิดว่าแสดงว่าท่านเมตตากับเราหรืออย่างไร แค่กอดแค่นี้หรืออย่างไร
ทิดไพรวัลย์ : ฟังแบบนี้เห็นใจแม่นะครับ ต้องเอาพระที่บอกว่าเข้าไปได้นี่แหละมาถามเลย ว่าทำไมถึงให้สีกาเข้าไปใกล้หลวงปู่
ลูกศิษย์หรือหมอที่เป็นลูกศิษย์ ต้องเอาเอกสารมายืนยันว่าท่านป่วยจริง ถ้าป่วยจริงก็มีข้อยกเว้น พระที่มีอาการฟั่นเฟือนทางสติ ถือว่าไม่ได้ผิดวินัยสงฆ์ ?
ทิดไพรวัลย์ : โดยวินัยว่าอย่างนั้น แต่ไม่ใช่ว่าผมจะยืนยัน แต่ต้องเอาเรื่องนี้เข้าสู่คณะสงฆ์ ให้คณะสงฆ์เป็นคนชี้มูล ว่าขณะที่ท่านจับต้องมีอาการจริงหรือไม่มี มันเป็นเรื่องละเอียด ต้องให้คณะสงฆ์ตัดสิน
2 ถ้าทุกอย่างยังเงียบ ไม่ออกมายืนยันว่าป่วยหรือไม่ป่วย ?
ทิดไพรวัลย์ : ไม่ได้ครับ หลวงปู่แสงเป็นพระมีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ คุณต้องแถลงข่าวเลยเป็นเรื่องเป็นราว เงียบไปก็ไม่ได้นะครับ ถ้าหลวงปู่ไม่มีสติรู้ตัวหรือปกป้องตัวเองไม่ได้ คุณต้องออกมาปกป้องเรื่องนี้ และแสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้เพราะคุณทำให้พระผู้ใหญ่มีมลทินแล้วนะครับ ถ้าไม่เคลียร์จะยุ่ง
ไม่ได้หยุดแค่ตรงนี้ มีถึงขั้นไปดื่มปัสสาวะหลวงปู่ เอาแพมเพิสหลวงปู่ที่มีอุจจาระ ไปแปะตามเสา แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นพระธาตุ จุดนี้ทิดไพรวัลย์มองยังไง ?
ทิดไพรวัลย์ : ผมถึงโพสต์ไปไงครับ ว่าพระเกจิหลายรูปได้เกจิโง่ๆ อยู่ใกล้ตัวทำเสียหายหมด อย่างพระที่แม่บอกว่าให้เข้าไปใกล้ ๆ เพราะพระโง่ ๆ แบบนี้แหละไม่รู้ข้อวินัย ทำให้พระอาจารย์เสียหาย
ไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ ?
ทิดไพรวัลย์ : ผมพูดตามข้อเท็จจริงมั้ยครับ การที่ครูบาอาจารย์เป็นพระเกจิ แต่เอาขี้เอาเยี่ยวมากินกัน มาโชว์สื่อ มันปกป้องครูบาอาจารย์ยังไงครับ ผมพูดด้วยความปรารถนาดีนะครับ ยิ่งทำให้พระอาจารย์ดูแย่ ถ้าเป็นพระลูกศิษย์ที่เคร่งครัด รู้ข้อวินัยอย่างดี จะไม่มีเคสแบบนี้เกิดขึ้นเลยครับ จะไม่มีการให้สีกาเข้าใกล้ มันเป็นไปไม่ได้ครับ พูดผิดตรงไหน ถ้าฉลาดจะเกิดแบบนี้เหรอ เยี่ยวคนใช่ของเอามากินเหรอครับ ของกินมีเยอะแยะทำไมไม่เอามากินฮะ
พระลูกศิษย์เขาบอกว่านับถือหลวงปู่ เขาเชื่อแบบนั้น บางรูปยกซดทั้งขวดหมดทั้งขวด เขาเชื่อว่ารักษาโรคต่าง ๆ นานาในร่างกายเขาได้ รวมถึงแพมเพิส บางคนบอกว่าแพมเพิสมีสารตัวนึง เป็นเจล ทำให้กลายเป็นพระธาตุเป็นเม็ด ๆ ได้ เรื่องนี้สอนเราอย่างนึงคือคุณได้เรียนรู้แล้วว่า นับจากนี้ไป ถ้าต้องไปไหว้พระที่ไหนก็ตามแต่ ถ้าเขาเรียกไปกราบพระให้พระเป่า ไม่ควรแล้ว ?
ทิดไพรวัลย์ : อย่าทำเด็ดขาด อยากฝากถึงผู้หญิงทุกคน เลิกเถอะครับ ค่านิยมให้พระเจิม ให้พระแตะ มันไม่ใช่สิริมงคล มันเป็นเสนียดจัญไร คนโบราณถือว่าเป็นเสนียดครับ ไม่ใช่มงคล
มุมเหยื่อเข้าใจมาก ๆ ว่าเป็นผู้ถูกกระทำ ความยุติธรรมในมุมเขาจะเกิดตรงไหน ?
ทิดไพรวัลย์ : ฟ้องสิครับ แล้วไปพิสูจน์กันด้วยข้อหลักฐาน ว่าเขาทำมีสติหรือไม่รู้ตัว ถ้าเสียหายก็ฟ้องร้องเลย
คุณจะไปฟ้องร้องมั้ย ?
ไก่ : คิดว่าคงไม่ค่ะ หนูไม่ทราบกฎหมายสงฆ์ แต่เชื่อว่ามีข้อปฏิบัติตามลำดับของมันอยู่ เราต้องสืบหาความจริงเหมือนท่านไพรวัลย์พูด
ถ้าแจ้งความเขาต้องไปพิสูจน์ ?
ทิดไพรวัลย์ : อยากให้ร้อง 2 ที่ ร้องผ่านคณะสงฆ์ที่นึง หรือร้องทางกฎหมายอีกที่นึง เพื่อเรียกความเป็นธรรมคืนให้เราด้วย ในฐานะเราถูกกระทำ ไม่ว่าลูกศิษย์จะอ้างว่าอัลไซเมอร์หรือไม่อัลไซเมอร์ ร้องไปคณะสงฆ์เลย ให้หามูลความจริงเรื่องนี้คุณถึงจะได้ความเป็นธรรมครับ
คนเรียกคุณขึ้นไปนั่นแหละ ?
ทิดไพรวัลย์ : นั่นแหละตัวการเลย ตัวต้นเรื่อง ต้องไปเอาตัวมา ทำให้เหยื่อเสียหาย ไปเรียกตัวพระที่บอกว่าขึ้นได้ เข้ามาใกล้ ๆ คนนั้นแหละตัวดีเลย ก็ฝากสองเรื่อง ผู้หญิงอย่าเข้าใกล้พระ ต่อให้เป็นพระเกจิก็อย่าให้ถูกเนื้อต้องตัวเด็ดขาด สองฝากถึงบรรดาลูกศิษย์ที่นับถือครูบาอาจารย์ ต้องนับถือสิ่งที่ท่านทำ ไม่ใช่ไปนับถือกองขี้กองเยี่ยวแพมเพิส ศรัทธาไม่ถูกที่เป็นการทำร้ายครูบาอาจารย์ครับ
เรื่องนี้จะยังไงต่อไป คุณเองไปกับหมอปลา ?
กัน : อยากฝากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือลูกศิษย์ ไม่ต้องเป็นพระเลขา เชื่อว่ามีลูกศิษย์หลายคนรับรู้เรื่องนี้ คนที่ทำให้หลวงปู่ดูแย่คือใคร พวกท่านควรรวมพลังนะ พวกท่านรักและเคารพหลวงปู่อยู่แล้ว ท่านดำเนินการเลยครับ เพราะยิ่งอยู่ยิ่งแย่ ท่านดำเนินการให้หลวงปู่ได้เลย ส่วนสำนักพุทธตอนนี้เรื่องของพระเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย อยากให้แอ็กชั่นเยอะ ๆ ตอนนี้หลังจากเคสนี้ ผมมีคลิปนึง พระช่วยตัวเองส่งให้สีกา เดี๋ยวไปตามเรื่องนี้อีก
ต่อไปจะไปไหว้พระก็ต้องระวังตัวเอง ?
แม่น้องไก่ : ตอนนี้เรารู้สึกว่าศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาลดน้อยถอยลง เพราะเราไม่แน่ใจว่าพระรูปไหนจะเป็นพระที่ปฏิบัติตามศีลธรรมครบถ้วนจริงหรือเปล่า เอาแค่ศีล 5 เราทราบนะว่าพระถูกเนื้อต้องตัว ศีล 5 ก็ไม่มีแล้ว ศีล 5 ยังไม่ได้เลย เราไม่มีความเชื่อมั่นว่าเราจะไปเคารพบูชากราบไหว้พระรูปไหนได้ ตอนนี้อยากให้สำนักพุทธเข้ามาดูแลตรงนี้ เราไม่ได้คิดจะมาทำร้ายหลวงปู่ หรือทำร้ายศาสนาพุทธ แต่อยากเป็นพลังส่วนหนึ่ง ที่บอกว่าสำนักพุทธควรดูแลพุทธศานาของเราให้ดี อย่าให้ศาสนาเสื่อมไปมากกว่านี้ ให้ทุกคนมีศรัทธาให้ได้อย่างถูกต้อง อยากให้ลงมาตรวจสอบตรงนี้
สิ่งที่อยากฝากสีกา อย่าเกรงใจพระ ต้องห้ามตัวเองด้วยมุมนึง ?
ไก่ : จริง ๆ วันที่เกิดเรื่อง วันที่โดนกระทำ ในหัวมีความคิดเยอะไปหมด ว่าเราควรจะทำยังไง เราควรโวยวายมั้ย นี่เป็นความอัดอั้นนะคะ เราต้องทำยังไงมันทำไม่ถูก พระที่อยู่ตรงนั้น ที่มีสติ อยู่ข้าง ๆ หลวงปู่ก็มีสติครบถ้วน หนูคิดว่าเขาเห็นเหตุการณ์ทำไมไม่ห้าม (เสียงสั่นเครือ) ทำไมปล่อยให้การกระทำแบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าเรามาด้วยความศรัทธาไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับเรา นี่คือครั้งแรกที่คน ๆ นึงถูกกระทำ แล้วหนูต้องทำยังไง หนูทำตัวไม่ถูก หนูทำได้แค่เดินออกมา จนแม่ก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น โดนอะไรหรือเปล่า หนูถึงเล่าให้แม่ฟัง แล้วเราก็กลับออกจากวัดเลย
แม่น้องไก่ : และเราคิดเลยว่าเราจะไม่ย้อนกลับไปทำบุญที่นี่อีกแล้ว ศรัทธามันหมดไปไงคะ จุดประสงค์เราไปทำบุญมี 2 อย่าง เราไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ ปู่ย่าตายายที่ล่วงลับไปแล้ว สองอย่างน้อยที่สุดเราได้สร้างบารมีให้ตัวเราทั้งชาตินี้และชาติหน้า เรามาคิดย้อนว่าทำไมคนที่กระทำเช่นนี้ ไม่กลัวบาปกลัวกรรม ถ้าศึกษาธรรมะจริง ๆ นรกต้องมีจริง แล้วทำไมไม่กลัวบาป ท่านไม่กลัวตกนรกเหรอ
ถ้าพิสูจน์ว่าท่านป่วยจริง ๆ ?
ไก่ : กรณีท่านป่วยจริง ๆ หนูเห็นด้วยว่าทำไมพระที่ดูแลถึงปล่อยให้สีกาขึ้นมาเจอท่าน
แม่น้องไก่ : ต้องควบคุมว่าหลวงปู่ป่วยนะ สีกาเข้าใกล้ท่านไม่ได้นะ
ไก่ : ที่พวกหนูไปกัน เราไม่รู้ว่าท่านมีอาการป่วยเป็นอัลไซเมอร์ เราไม่รู้ค่ะ ถ้าอ่านป้าย ท่านบอกมีโรคประจำตัว เราไม่ทราบว่าโรคเกี่ยวกับอัลไซเมอร์ หนูคิดว่าเนื่องจากโควิด อาจมีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ โรคหัวใจแบบนี้
คุณอาร์มอยู่กับลุงวิจิตร ตอนนี้วุ่นวายกันมั้ย ?
วิจิตร : มีบ้างครับ สีกาสาวเล่านาทีถูก หลวงปู่แสง จับหน้าอก
หลวงปู่ไปไหน ?
วิจิตร : ไม่ทราบครับ มาแล้วไม่เห็นหลวงปู่เลย
หลวงปู่ไปไหน ?
อาร์ม : เป็นรายงานข่าวว่าหลวงปู่น่าจะไปพักบ้านลูกศิษย์ที่จังหวัดมหาสารคาม ไปพักรักษาตัวก่อน
คนในพื้นที่เป็นยังไง ?
อาร์ม : เสียงแตกบ้าง ฝั่งนึงยังเลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ บางส่วนก็ไปโฟกัสที่พระลูกศิษย์ พระเลขา ว่าทำไมไม่ดูแลท่าน ทำไมปล่อยให้ท่านทำแบบนี้จนเสื่อมเสีย
กัน : ถามคุณลุงเมื่อกี้หน่อย คุณลุงเคยพาหลวงปู่ไปฝากเงินมั้ย
วิจิตร : เคยครับ
กัน : ฝากเท่าไหร่
วิจิตร : ตอนนั้น 57 ล้าน ฝากที่ธนาคาร กรุงศรี สาขายโสธร
ใครเซ็นเงินออกมาได้ ?
วิจิตร : ไม่มีใครเซ็นออกมาได้ แต่ก่อนท่านไปฝากที่เชียงดาว พอออกจากเชียงดาวก็มายโส จากยโสได้ข่าวว่าไปอุบลฯ แล้ว
กัน : หลวงปู่จำได้ใช่มั้ย มีเงิน 57 ล้าน
วิจิตร : ก็ไม่ทราบ ณ ขณะนี้
กัน : พระเลขาดูแลเงินหลวงปู่ดีใช่มั้ย วิจิตร : ไม่ทราบเหมือนกัน
กัน : ฝากพี่ ๆ ท่านอื่นที่กำลังดูอยู่ตอนนี้ ฝากดูเงินของท่านด้วย เยอะนะ 57 ล้าน
เชื่อว่าหลายท่านพอทราบว่าหลวงปู่มีเงินเยอะ พอป่วยเป็นอัลไซเมอร์ จะเอายังไงกับเงินตรงนี้ต่อไป เพราะลุงวิจิตรบอกว่าหลวงปู่เซ็นได้ และเงินอยู่ในบัญชีของหลวงปู่ นี่แค่เงินก้อนเดียว 57 ล้าน ส่วนที่เหลือไปกระจายที่อื่นหรือเปล่า ?
กัน : นี่ไม่ได้กล่าวหานะ เป็นห่วงเฉย ๆ
ฝั่งนี้เกรงใจพระ ทั้งที่ใจต่อต้าน ?
แม่น้องไก่ : เราคิดว่าเป็นประเพณีของที่นั่น
เราเป็นเหยื่อ เขาอยากให้ไปร้อง ไปแจ้งความ เพื่อให้หลวงปู่ยืนยันว่าป่วย ถ้าป่วยคนรับผิดชอบต้องไปดูว่าเป็นใคร ?
กัน : ที่ฝากบอกส่วนสำนักพุทธ ท่านต้องแอ็กชั่นเยอะ ๆ นะครับ ตอนนี้เรื่องราวบานปลายเยอะแยะมากมาย ผมเป็นคนนึงที่ไหว้พระ นับถือศาสนาพุทธจริงจัง อยากให้แอ็กชั่นเพื่อมีพระที่ดี ถ้าไม่แอ็กชั่นเราอาจมีแค่มนุษย์ในชุดพระนะครับ อยากให้ท่านดำเนินการครับ