
ทหารหญิงเห็นสาวต่างชาติ ยืนหน้าพระราชวังเดิม
วันที่ 22 มกราคม 2563 ทีมข่าว siamstreet รายงานว่า โลกออนไลน์มีการส่งต่อภาพเรื่องราวของผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อ กองทัพเรือ โดย โฆษก กองทัพเรือ ที่ได้โพสต์ภาพของสาวชาวต่างชาติพร้อมระบุข้อความว่า Lost in Bangkok อีกหนึ่งความดี ที่มีน้ำใจช่วย ผู้เดือดร้อน หลงจากกลุ่มทัวร์ และติดต่อคนรู้จัก หรือใครๆในกลุ่มก็ไม่ได้ เหตุการณ์อย่างนี้ ใครไม่เคยหลง หากมีประสบการณ์หงทางจากกลุ่ม แล้วติดต่อไม่ได้ดูบ้าง จะนึกถึง ทีมงานเนวี่พีอาร์ ที่อีกไม่ช้าอาจจะถูกส่งไปลาดตระเวณบนถนนอรุณอมรินทร์แถวปากประตูทางเข้า กองบัญชากองทัพเรือ และ ประตูวัดอรุณราชวราราม ให้บ่อยขึ้น
ระหว่างพักเที่ยงวันนี้ ขณะทีมงานเนวี่พีอาร์ จะออกไปรับประทานอาหารกลางวัน พบหญิงสูงอายุชาวต่างชาติ ยืนร่ำไห้ตัวสั่นงันงกด้วยความตกใจกลัว บริเวณหน้า กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เมื่อส่งผู้ที่คล่องภาษาอังกฤษที่สุดเข้าไปเจรจา ได้ความว่า นักท่องเที่ยวหญิงรายนี้ เดินทางมาจาก ประเทศนอร์เวย์ เข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย โดยเรือสำราญ และ พักค้างคืนบนเรือตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเมืองไทย วันนี้บริษัททัวร์พามาวัดอรุณฯ และนัดหมายให้มาเจอกันที่ประตูหน้าวัดเพื่อขึ้นรถทัวร์กลับ หลังจากที่เดินชม ความงดงามของพระปรางค์ เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมายก็เดินออกมาที่หน้าประตูกองบัญชาการกองทัพเรือพระราชวังเดิมโดยเข้าใจว่าเป็นประตูหน้าของวัดอรุณ จนกระทั่งได้เวลานัดหมายก็ไม่เห็นเพื่อนร่วมคณะทัวร์เข้ามาสักที จนเหลือบไปอ่านป้ายที่ประตูด้านบน จึงได้ทราบว่า นี่คือ ROYAL THAI NAVY HEADQUARTER และรู้ว่าตนเองได้มาผิดจุดนัดหมายแล้ว
เมื่อน้องทีมงานเนวี่พีอาร์ ถามข้อมูลอื่น รัว ๆ ว่า พักที่ไหน จุดหมายต่อไปคือที่ไหน และมีเบอร์ติดต่อใครในคณะทัวร์หรือไม่ โดยเฉพาะไกด์ เธอไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้เลย หลักฐานที่ปรากฏมีเพียงสติกเกอร์เลข 11 ที่ปรากฏบนหน้าอก ตั๋วขึ้นเรือเดินสมุทรและคีย์การ์ดเข้าห้องนอนนบนเรือ ส่วนพาสปอร์ตและโทรศัพท์ เธอไม่ได้นำติดตัวมามีเพียงกล้องถ่ายรูปและกระเป๋าเงินเท่านั้น
สิ่งที่ช่วยได้ตอนนี้คือ พาเธอเดินไปบริเวณที่จอดรถทัวร์ และภายในวัด เดินหากันจนทั่วแต่ก็ไม่ปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวคนใดมีสติกเกอร์ติดหน้าอกเหมือนเธอเลยซักคนเดียว จนนึกขึ้นได้ว่าใกล้กับร้านกาแฟของทางวัดมีป้อมตำรวจท่องเที่ยวอยู่ จึงนำเธอไปส่งที่นั่น โดยน้องตำรวจ ที่ประจำอยู่ในป้อม เป็นตำรวจที่ทาง สน บางกอกใหญ่ ส่งมาประจำการบอกว่าเจอแบบนี้มาหลายเคส และจะรีบประสานกับทางตำรวจท่องเที่ยวให้ช่วยติดตามกับบริษัททัวร์และ ไกด์ในทันที
น้องตำรวจ พูดคุยและอธิบายอยู่พักใหญ่ ดูทีท่าว่านักท่องเที่ยวหญิงรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจขึ้น จนเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย ในชุดสายตรวจก็รุดมาถึงวัดอรุณ หลังจากตรวจสอบ และพบว่าบริษัททัวร์ที่นำนักท่องเที่ยวหญิงรายนี้มาวัดอรุณ มีจุดหมายต่อไปคือที่ วัดไตรมิตร เพื่อชมหลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตรพระพุทธรูปทองคําที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทางตำรวจท่องเที่ยว ก็จะได้นัดหมายกับทางไกด์เพื่อนำ นักท่องเที่ยวหญิงรายนี้ ส่งกลับคณะทัวร์เพื่อเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อไป
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากจริงๆค่ะ หากเราไปหลงทางอยู่ต่างประเทศแบบนี้ก็ตกใจกลัวเหมือนกัน
เรียบเรียง siamstreet